เทคโนโลยียานยนต์ สองล้อ Tron Bike
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ยานยนต์ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ยานยนต์ แสดงบทความทั้งหมด
- 21:26
หุ่นยนต์ทางการเกษตร จากการทดลองมายาวนานกว่า 20 ปี นี่คือสิ่งที่เราจะได้เห็นในการทำการเกษตร เพื่อนำมาทดแทนแรงงานคนงาน ใช้เทคนิคการสแกนช่วยในการทำงาน ดูความแตกต่างของสเปคตรัมแสงบวกกับความก้าวหน้าด้านการคำนวน เมื่อต้องการคัดเลือกเก็บเกี่ยวผลผลิต
นอกจากนั้นยังสามารถนำไปใช้เป็นเครื่องพ่นยากำจัดศัตรูพืช ที่ให้ความเที่ยงตรง ทั้งขนาดและปริมาณในการใช้
Agricultural robots are appearing on farms
Significant numbers of robots are now appearing on farms. These have been in development for 20 years and are now cheap and sophisticated enough for mainstream use. New scanning and imaging technology has solved the problem of allowing robots to handle the varying shapes of individual fruits and vegetables. Their on-board computers can now differentiate between an object and its shadow and between green fruits, leaves and vines. This is accomplished using an array of cameras, each picking up a different spectrum of light and creating a perfect picture of the obstacles and topography in the robot's surrounding environment.
Complex algorithms allow robotic workers to "learn" the longer they are on the job, so they become more adept as time goes on. This helps the computer to recognize a fruit that is partially covered by a leaf or similar obstruction, for example. The grasping tools themselves are based on human movements and are programmed to apply the correct pressure.
Advantages of this technology include much greater accuracy in spraying pesticides (cutting its use by 80%), uninterrupted output, and, as the technology improves, greater efficiency and speed. Initially, these robots are present on a small number of farms, often working alongside traditional human workers. As the years go by, however, and the technology proliferates, more and more farms begin to adopt robotic workers.
By the 2020s, entire farms are becoming fully automated.
The increased output helps to alleviate food shortages caused by rising global populations. Despite these gains, agricultural robots prove controversial. They exacerbate the ongoing unemployment crisis, with the potential of putting many thousands of workers out of a job. Mechanization continues its unending progress, as yet another industry begins to be handed over to machines.
นอกจากนั้นยังสามารถนำไปใช้เป็นเครื่องพ่นยากำจัดศัตรูพืช ที่ให้ความเที่ยงตรง ทั้งขนาดและปริมาณในการใช้
Agricultural robots are appearing on farms
Significant numbers of robots are now appearing on farms. These have been in development for 20 years and are now cheap and sophisticated enough for mainstream use. New scanning and imaging technology has solved the problem of allowing robots to handle the varying shapes of individual fruits and vegetables. Their on-board computers can now differentiate between an object and its shadow and between green fruits, leaves and vines. This is accomplished using an array of cameras, each picking up a different spectrum of light and creating a perfect picture of the obstacles and topography in the robot's surrounding environment.
![]() |
หุ่นยนต์ทางการเกษตร Agricultural robots |
Complex algorithms allow robotic workers to "learn" the longer they are on the job, so they become more adept as time goes on. This helps the computer to recognize a fruit that is partially covered by a leaf or similar obstruction, for example. The grasping tools themselves are based on human movements and are programmed to apply the correct pressure.
Advantages of this technology include much greater accuracy in spraying pesticides (cutting its use by 80%), uninterrupted output, and, as the technology improves, greater efficiency and speed. Initially, these robots are present on a small number of farms, often working alongside traditional human workers. As the years go by, however, and the technology proliferates, more and more farms begin to adopt robotic workers.
By the 2020s, entire farms are becoming fully automated.
The increased output helps to alleviate food shortages caused by rising global populations. Despite these gains, agricultural robots prove controversial. They exacerbate the ongoing unemployment crisis, with the potential of putting many thousands of workers out of a job. Mechanization continues its unending progress, as yet another industry begins to be handed over to machines.
- 21:31
แก็ดเจ็ต “โดรน” หรือ “มัลติโรเตอร์”
หุ่นยนต์อัตโนมัติ หรือที่เรามักจะเรียกมันว่า “อากาศยานไร้คนขับ(UAV)” (UAV: Unmanned Aerial Vehicle)
"โดรน" อากาศยานไร้คนขับ พัฒนาการของมันสามารถใช้ได้ทั้งทางการทหาร ด้านความมั่นคง และในเชิงพาณิชย์ โดยไม่ต้องใช้มนุษย์ขึ้นไปนั่งบังคับ ใช้วิธีควบคุมจากคอมพิวเตอร์ระยะไกล ส่วน "โดรน" เป็น "ยูเอวีติดอาวุธ" ถูกใช้ในการทหาร มีโปรแกรมควบคุมที่มีระบบซับซ้อนกว่า เช่น ใช้ถ่ายรูปสอดแนมประเทศศัตรู โจมตีค่ายก่อการร้ายข้ามชาติ ลอบสังหาร ฯลฯ
"โดรน" ถูกพัฒนาต่อเนื่องจนใช้ประโยชน์ได้จริงตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 กองทัพสหรัฐส่งบินสอดแนมข่าวกรองในสมรภูมิสงคราม เมื่อปี 2544 มันถูกปรับปรุงให้ทันสมัยกลายเป็นอาวุธเพชฌฆาตล่องหนและไร้วิญญาณ โดยติดขีปนาวุธก่อนส่งลักลอบบินเข้าไปสังหารบุคคลสำคัญในประเทศปากีสถานและอุซเบกิสถาน จากนั้นก็ถูกสั่งให้บินไปสังหารกลุ่มอัล-ไกดาในเยเมน ช่วงปี 2545 แต่ที่กลายเป็นข่าวโด่งดังจนถูกต่อต้านจากหลายฝ่ายคือ กองทัพอิสราเอลใช้โดรนติดอาวุธร้ายแรงบินเข้าไปทิ้งระเบิดลอบสังหารชาวปากีสถานเกือบ 50 ราย ในฉนวนกาซา จนทำให้เด็กและผู้หญิงกลุ่มหนึ่งเสียชีวิตไปด้วย
เดิม "โดรน" มีราคาที่แพงเอาเรื่องสุดๆ ในตอนนั้นมักจะใช้กันในหมู่กองถ่าย หรือไม่ก็สำนักข่าว มากกว่า แต่เดี๋ยวนี้เริ่มมีราคาถูกลงขึ้นมาบ้างแล้ว จนคนทั่วไปสามารถครอบครองได้ "โดรน" นอกจากเอามาทำงานแล้ว ยังเอามาบังคับเล่นเพื่อความเพลิดเพลินไม่ต่างจาก เครื่องบินบังคับ
"โดรน" แบ่งเป็น 3 ขนาด คือ ขนาดเล็ก หนักไม่เกิน 20 กก. ขนาดกลาง หนักประมาณ 50-100 กก. ขนาดใหญ่ หนักมากกว่า 100 กก.ขึ้นไป
แม้ว่ายูเอวีจะถูกกลุ่มนักสิทธิมนุษยชนต่อต้านว่าเป็นอาวุธร้ายแรงไร้มนุษยธรรม แต่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก ยังพยายามส่งเสริมให้วิศวกรของตัวเองพัฒนายูเอวีให้มากที่สุด เพราะนอกจากเสริมสร้างความมั่นคงของประเทศแล้ว ช่วงสิบปีที่ผ่านมาเครื่องบินไร้คนขับถูกนำมาใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ถ่ายสภาพภูมิอากาศ สืบหาพายุเฮอริเคน ขนส่งสินค้าขนาดเล็ก สืบหาคนหลงป่า ผู้ช่วยนักดับเพลิง ฯลฯ
ส่วน"โดรน" ไฮเทคสุด เป็นเทคโนโลยีของกองทัพสหรัฐสามารถบินได้ไกลข้ามทวีป ประมาณ 1,000 กิโลเมตร บินยาวนานถึง 10 ชั่วโมง ติดอาวุธขีปนาวุธร้ายแรงได้ด้วย ส่วนการบังคับนิยมใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ควบคุมการบินและเส้นทางอัตโนมัติให้ไปยังจุดหรือพื้นที่ที่กำหนดได้ และสามารถติดตามข้อมูลแสดงการบินจากหน้าจอคอมพิวเตอร์
สำหรับประเทศไทยนั้น ยูเอวีถูกพัฒนาทั้งใน 3 หน่วยงานหลักคือ กองทัพ มหาวิทยาลัย และภาคเอกชน มีการแข่งขันวิจัยและพัฒนาหลายโครงการ จุดประสงค์ใช้งานแตกต่างกันไป
หุ่นยนต์อัตโนมัติ หรือที่เรามักจะเรียกมันว่า “อากาศยานไร้คนขับ(UAV)” (UAV: Unmanned Aerial Vehicle)
"โดรน" อากาศยานไร้คนขับ พัฒนาการของมันสามารถใช้ได้ทั้งทางการทหาร ด้านความมั่นคง และในเชิงพาณิชย์ โดยไม่ต้องใช้มนุษย์ขึ้นไปนั่งบังคับ ใช้วิธีควบคุมจากคอมพิวเตอร์ระยะไกล ส่วน "โดรน" เป็น "ยูเอวีติดอาวุธ" ถูกใช้ในการทหาร มีโปรแกรมควบคุมที่มีระบบซับซ้อนกว่า เช่น ใช้ถ่ายรูปสอดแนมประเทศศัตรู โจมตีค่ายก่อการร้ายข้ามชาติ ลอบสังหาร ฯลฯ
![]() |
"โดรน" อากาศยานไร้คนขับ UAV |
"โดรน" ถูกพัฒนาต่อเนื่องจนใช้ประโยชน์ได้จริงตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 กองทัพสหรัฐส่งบินสอดแนมข่าวกรองในสมรภูมิสงคราม เมื่อปี 2544 มันถูกปรับปรุงให้ทันสมัยกลายเป็นอาวุธเพชฌฆาตล่องหนและไร้วิญญาณ โดยติดขีปนาวุธก่อนส่งลักลอบบินเข้าไปสังหารบุคคลสำคัญในประเทศปากีสถานและอุซเบกิสถาน จากนั้นก็ถูกสั่งให้บินไปสังหารกลุ่มอัล-ไกดาในเยเมน ช่วงปี 2545 แต่ที่กลายเป็นข่าวโด่งดังจนถูกต่อต้านจากหลายฝ่ายคือ กองทัพอิสราเอลใช้โดรนติดอาวุธร้ายแรงบินเข้าไปทิ้งระเบิดลอบสังหารชาวปากีสถานเกือบ 50 ราย ในฉนวนกาซา จนทำให้เด็กและผู้หญิงกลุ่มหนึ่งเสียชีวิตไปด้วย
เดิม "โดรน" มีราคาที่แพงเอาเรื่องสุดๆ ในตอนนั้นมักจะใช้กันในหมู่กองถ่าย หรือไม่ก็สำนักข่าว มากกว่า แต่เดี๋ยวนี้เริ่มมีราคาถูกลงขึ้นมาบ้างแล้ว จนคนทั่วไปสามารถครอบครองได้ "โดรน" นอกจากเอามาทำงานแล้ว ยังเอามาบังคับเล่นเพื่อความเพลิดเพลินไม่ต่างจาก เครื่องบินบังคับ
"โดรน" แบ่งเป็น 3 ขนาด คือ ขนาดเล็ก หนักไม่เกิน 20 กก. ขนาดกลาง หนักประมาณ 50-100 กก. ขนาดใหญ่ หนักมากกว่า 100 กก.ขึ้นไป
แม้ว่ายูเอวีจะถูกกลุ่มนักสิทธิมนุษยชนต่อต้านว่าเป็นอาวุธร้ายแรงไร้มนุษยธรรม แต่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก ยังพยายามส่งเสริมให้วิศวกรของตัวเองพัฒนายูเอวีให้มากที่สุด เพราะนอกจากเสริมสร้างความมั่นคงของประเทศแล้ว ช่วงสิบปีที่ผ่านมาเครื่องบินไร้คนขับถูกนำมาใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ถ่ายสภาพภูมิอากาศ สืบหาพายุเฮอริเคน ขนส่งสินค้าขนาดเล็ก สืบหาคนหลงป่า ผู้ช่วยนักดับเพลิง ฯลฯ
ส่วน"โดรน" ไฮเทคสุด เป็นเทคโนโลยีของกองทัพสหรัฐสามารถบินได้ไกลข้ามทวีป ประมาณ 1,000 กิโลเมตร บินยาวนานถึง 10 ชั่วโมง ติดอาวุธขีปนาวุธร้ายแรงได้ด้วย ส่วนการบังคับนิยมใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ควบคุมการบินและเส้นทางอัตโนมัติให้ไปยังจุดหรือพื้นที่ที่กำหนดได้ และสามารถติดตามข้อมูลแสดงการบินจากหน้าจอคอมพิวเตอร์
![]() |
UAV โดรน ของกองทัพสหรัฐ |