(ชะลอความชราเป็นไปได้หรือ)
ผลจากอภิมหาโครงการทางเทคโนโลยีชีวภาพ
“โครงการพันธุกรรมมนุษย์”
ทำให้ทราบว่ามียีนที่เกี่ยวข้องกับความชราอยู่มากมาย ส่วนกลไกความชราก็ค่อยๆ
เป็นที่เข้าใจกระจ่างชัดขึ้นมาทีละน้อยๆ ด้วยเหตุนี้จึงคิดกันว่า
แม้เราจะหลีกหนีความชราไปได้ไม่พ้น แต่ก็น่าจะสามารถชะลอความชราให้ช้าลงได้
คำอธิบายถึงกลไกความชรามีมากมาย
ข้อหนึ่งกล่าวถึง “เทเลเมียร์ (telomere)” ที่เป็นส่วนปลายสุดของสายดีเอ็นเอซึ่งเมื่อเซลล์มีการแบ่งตัวครั้งใด
ปลายเทเลเมียร์นี้ก็จะหดสั้นลงเรื่อยๆ จนในที่สุดเซลล์ก็หมดความสามารถในการแบ่งตัว
อีกสาเหตุหนึ่งก็คือ การทำลายของเหล่าออกซิเจนในรูปทำลายล้าง (reactive
oxygen) ทั้งหลายที่ใช้อธิบายกลไกของความชราได้
ถึงเวลาแล้วที่เราจะนำเอาข้อมูลทางพันธุกรรมมาประยุกต์ใช้เพื่อสุขภาพของพวกเราเอง
ตัวอย่างเช่น การคิดค้นผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ช่วยให้ความชราเกิดขึ้นช้าลง
การค้นหาเอนไซม์ที่ใช้ทำลายออกซิเจนในรูปทำลายล้างชนิดต่างๆ ที่มีอันตราย หรือไม่ก็ด้วยงานด้านโภชนาการเพื่อค้นหาสารอาหารที่ช่วยชะลอความชรา
รวมทั้งพัฒนาวิธีการยับยั้งการสั้นลงของเทเลเมียร์หรือทำให้เทเลเมียร์ยาวออกมาได้
นอกจากนี้
การพัฒนายาใหม่จากความรู้ด้านยีนอาจจะช่วยยับยั้งความชราเอาไว้ได้ไม่มากก็น้อย
ด้วยความรู้พื้นฐานด้านข้อมูลพันธุกรรมทำให้เราสามารถหาวิธีการรวมทั้งใช้โภชนบำบัดหรือการออกกำลังกาย
เพื่อให้อายุของเรามีแนวโน้มที่จะยืนยาวขึ้นได้
ปัญหาใหม่ที่เกิดขึ้นเนื่องจากสังคมในปัจจุบันมีแนวโน้มว่าจะมีจำนวนผู้สูงอายุมากขึ้น
คือ อาการความจำเสื่อมมีมากขึ้น โดยสาเหตุอาจมาจากความเสื่อมของเซลล์ประสาทได้แก่
โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s disease)
หรือจากความเสื่อมยของหลอดเลือดในสมอง ปัจจุบัน
มีความพยายามอย่างยิ่งที่จะพัฒนยามาเพื่อใช้ในการรักษาอาการนี้
ส่วนในอนาคตอาจจะเป็นการใช้สเต็มเซลล์จากเอ็มบริโอมากระตุ้นให้มีพัฒนาการไปเป็นเซลล์ประสาท
แล้วนำไปปลูกถ่ายในสมอง ร่วมกับการฟื้นฟูทางร่างกายและความจำ
อาจช่วยให้สามารถรักษาอาการจิตเสื่อมและความจำเสื่อมในผู้สูงอายุได้
Alzheimer’s disease |
ยิ่งไปกว่านั้น
จากความก้าวหน้าของงานวิจัยด้านไบโออิเล็กทรอนิกส์ระบบสมองกล “คอมพิวเตอร์ชีวภาพ (bio-computer)” จึงกำลังได้รับการพัฒนา
โดยการฝังระบบความจำในสมองและติดตั้งตัวควบคุมไว้ภายนอก
อาจเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาความจำเสื่อมนี้ได้